12 ปี โต้ง มณเฑียร แก้วกำเนิด ในนาม SAVE DA LAST PIECE

34K View

KOR NOTAPOL

ในวงการดนตรีคงไม่มีใครรู้จัก “โต้ง - มณเฑียร แก้วกำเนิด” มือกีต้าร์มากความสามารถที่เข้าวงการดนตรีมาในฐานะนักแต่งเพลง และสามารถขึ้นเป็นโปรดิวเซอร์ แล้วเริ่มขยับมาทำงานเบื้องหน้าในฐานะมือกีต้าร์ของวง P.O.P. จนในที่สุดก็อัลบั้มเดี่ยวโดยใช้ชื่อว่า Save Da Last Piece คงจะพอคุ้นหูคุ้นตากันบ้างแล้ว แต่เราไปทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันดีกว่า



1


“ก่อนที่เราจะไปเรียนต่างประเทศก็พูดกันไว้ว่าจะทำวงด้วยกัน แต่พอเรากลับมามันก็ออกเทปไปละ (หัวเราะ)”



มณเฑียร แก้วกำเนิด

“เราชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก พอช่วงมัธยมปลายก็ตัดสินใจไปเรียนดนตรีจริงจังที่ Berklee College of Music (วิทยาลัยดนตรีเบิร์กเลย์) ตอนที่เรียนจบก็ทำเดโม่ไว้เพลงหนึ่ง พอกลับไทยก็เลยลองเอาเดโม่ไปให้พี่สมเกียรติ (สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ ผู้ก่อตั้งค่ายเบเกอรี่มิวสิก) หลังจากนั้นไม่กี่วันพี่สมเกียรติก็เรียกเข้าไปทำงาน ในฐานะนักแต่งเพลง ที่เบเกอรี่มิวสิก” พี่โต้งเล่าย้อนไปถึงโอกาสแรกในวงการเพลง


พี่โต้งบอกว่าที่ได้มารู้จักกับพี่สมเกียรติเป็นเพราะความบังเอิญล้วนๆ แต่เราว่ามันคือโชคชะตากำหนดไว้ให้มารู้จักกันมากกว่า “คือเรากับป๊อด (ธนชัย อุชชิน) รู้จักกันมานานมากๆ ก่อนที่เราจะไปเรียนต่างประเทศก็พูดกันไว้ว่าจะทำวงด้วยกัน แต่พอเรากลับมาป๊อดก็มีวง (Moderndog) ออกเทปไปละ (หัวเราะ) วันนั้นเราแค่อยากจะไปหาไอ้ป๊อด! (เสียงหมั่นเขี้ยว) แต่ดันไปเดินชนพี่สมเกียรติอย่างแรงเลย เรารู้สึกคุ้นๆ หน้า เพราะติดตามผลงานพี่สมเกียรติอยู่แล้ว ก็เลยทักพี่เขาก่อน เลยได้ทำความรู้จักกัน (หัวเราะ) เนี่ย! มันโคตรบังเอิญ”


โต้ง P.O.P.

“P.O.P. เป็นวงเฉพาะกิจที่เกิดจากเทปผีซีดีเถื่อนระบาดหนัก เรียกว่าเป็นช่วงวิกฤตของวงการเพลง เรารู้จักกับนภ (นภ พรชำนิ) อยู่แล้ว เพราะนภเป็นเพื่อนกับป๊อด แล้วก้อ (ณฐพล ศรีจอมขวัญ) ก็เป็นรุ่นน้องเรา เลยชวนกันมาทำเพลง ตอนนั้นก็ถือว่ากู้วิกฤตได้พอสมควร คนหันมาซื้อเทปถูกกฎหมายกันมากขึ้น และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้โปรดิวส์ด้วยนะ เพราะปกติแต่งเพลงอย่างเดียว ตั้งแต่นั้นมาก็มีโอกาสได้ช่วยพี่สมเกียรติกับพี่บอย (บอย โกสิยพงษ์) โปรดิวส์มาเรื่อยๆ ” ในยุคนั้น วัยรุ่นแทบทุกคนจะต้องเคยฟังเพลงของ P.O.P. เพราะวงนี้ดังมาก และมีเพลงฮิตที่เปิดเมื่อไรก็ฮึมฮัมตามได้ตลอด




โต้ง Save Da Last Piece

“หลังจากนั้นสักพักใหญ่ๆ หลายปีมาก จำได้ว่าช่วงนั้นเปิดร้านนั่งดื่ม เป็นดีเจเปิดเพลง และรับจ้างแต่งเพลงทั่วไป มีวันหนึ่งคุณพิชัย จิราธิวัฒน์ (ผู้บริหาร Spicydisc) โทรมาให้ทำเพลงงานเปิดตัวสินค้า แต่ชื่อเพลงจำไม่ได้ละ (หัวเราะ) นี่คือจุดเริ่มต้นที่ให้เราได้ทำงานกับพี่เต้ง พองานนี้จบสักพัก พี่เต้งก็โทรมาอีก บอกว่าอยากจะเปิดค่ายเพลง เราก็โอเคเลย เอาดิ เดี๋ยวช่วย จากนั้นก็ออกมาเป็น Save Da Last Piece ศิลปินเบอร์แรกของ Spicydisc (หัวเราะ)”


2


“สิ่งที่เราได้ยิน มันไม่ใช่ทางของเรา เขาเล่นในแบบที่เป็นตัวของเขา ไม่เหมือนเพลงของเราเลย ก็เลยอยากจะลองถอยออกมาดูอีกมุมหนึ่งบ้าง”




Save Da Last Piece
“เรามีเพลงอยู่แล้ว และเราก็มีศิลปินไว้ในใจอยู่แล้วด้วย” พี่โต้งเริ่มเล่าถึงการทำงานของ Save Da Last Piece อัลบั้ม Appetizer “ด้วยความที่เราเป็นโปรดิวเซอร์ ก็จะรู้จักศิลปิน นักร้องพอสมควร จะรู้ว่าคาแรคเตอร์ของแต่ละคนเป็นยังไง เล่นดนตรีออกมาเป็นยังไง ร้องออกมาเป็นยังไง เราก็หยิบเอาความรู้ของเรากับคุณภาพของศิลปินมาใช้ในงาน”

“Ep. Soup ที่ปล่อยไปแล้ว กระบวนการทำงานก็ไม่ต่างกันมาก คือมีวิธีการคิดแบบเดียวกัน แต่ Soup จะต่างจาก Appetizer คือ Appetizer  มันมาจากตัวเราล้วนล้วนๆ เราทำทุกอย่าง เพื่อส่งต่อให้ศิลปินเอาไปร้อง แต่สำหรับ Soup เราจะถอยออกมาอยู่ข้างนอกวง คอยคุมอยู่ ถ้าเปรียบกับอาชีพก็คงจะเป็นเชฟใหญ่ คอยโยนวัตถุดิบให้พ่อครัวที่เราเลือกเอาไว้ว่าเขาน่าจะทำอาหารประเภทนั้นๆ ได้ดี เรามีหน้าที่ชิม และคอยแนะนำ ตบทุกอย่างให้เข้ากัน”


ทำไมต้อง Soup
“เพราะ Ep. นี้ เราไม่ได้ใช้แค่นักร้อง แต่เราใช้ศิลปินทั้งวง พอมีหลายวง ก็มีหลายคาแรคเตอร์มารวมกัน มันก็มีอะไรมากขึ้น เหมือนกับการต้มซุปที่ต้องใช้วัตถุดิบหลายๆ อย่างรวมกัน และซุปมันก็มีหลายแบบ เป็นอาหารประเภทเดียวกันแต่รสชาติไม่เหมือนกัน อย่างซุปข้าวโพด ซุปฟักทองอะไรแบบนี้” พี่โต้งอธิบายแบบเรียบง่าย แต่เราร้องอ๋อทันทีที่ฟังจบ 
แล้วการทำงานของศิลปินจะเป็นยังไงบ้างนะ “แน่นอนว่าซาวด์ดนตรีจะเป็นทิศทางของเรา แต่วิธีการเล่น วิธีการร้อง วิธีการโชว์ มันก็จะยังคงคาแรคเตอร์ของศิลปินวงนั้นๆ อยู่ อย่าง 3 เพลงที่อยู่ใน Ep ศิลปินก็จะมีคาแร็คเตอร์ต่างกันแบบเห็นได้ชัดเลย ทั้ง Nap A Lean, Mild และ Better Weather”




อะไรที่ทำให้อยากเริ่ม Project นี้

“เวลาไปนั่งดื่มที่ร้านจะมีน้องๆ นักดนตรีที่ประจำอยู่ที่ร้าน พอเขาเห็นเราเขาก็จะเล่นเพลงของเราขึ้นมา แต่สิ่งที่เราได้ยิน มันไม่ใช่ทางของเรา เขาเล่นในแบบที่เป็นตัวของเขา ไม่เหมือนเพลงของเราเลย ก็เลยอยากจะลองถอยออกมาดูอีกมุมหนึ่งบ้าง ถ้าเราโยนโจทย์อะไรที่มาจากเรา แล้วศิลปินที่ร่วมงานด้วยเขาจะเล่นออกมาเป็นยังไง” ที่จริงมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก แต่จะมีสักกี่คนที่คิดเหมือนพี่โต้ง นี่แหละคือความเจ๋งที่พี่โต้งมี


3 เพลงแรกใน Ep. Soup พี่โต้งชอบเพลงไหนมากที่สุด

“ถ้าถามว่าชอบเพลงไหนมากที่สุด ก็ไม่มีอะ เพราะชอบทุกเพลง (หัวเราะ) แค่เพลงเสร็จเรียบร้อย ออกมาได้อย่างใจมันก็มีความสุขแล้ว จบแล้ว”




3


“กำลังมองหาพื้นที่เปิดร้านราดหน้า ใครมีทำเลดีก็แนะนำกันได้นะครับ”


โปรเจคต่อไป

“อัลบั้มเต็มครับ ตอนนี้ที่มี 11 เพลง แต่ยังบอกไม่ได้นะว่าจะออกมาทั้ง 11 เพลงหรือเปล่า อาจจะลดหรือเพิ่มลงก็ได้ (หัวเราะ)” แหม ถ้าเป็นชื่อพี่โต้งแล้วใครก็อยากฟังเพลงของพี่โต้งทั้งนั้นแหละ จริงมั้ย?

“แต่นอกจากงานเพลงแล้ว ตอนนี้กำลังมองหาพื้นที่เปิดร้านราดหน้า มีคนเรียกร้องกันเยอะ เลยอยากกลับมาเปิดร้านอีก (หัวเราะ) ใครมีทำเลดีก็แนะนำกันได้นะครับ”


Happy Birthday Spicydisc

“12 ปีแล้วโว้ย!!!!!!! เพิ่งจะได้ออกอัลบั้มใหม่นี่แหละ (หัวเราะ) ดีใจที่เราได้เป็นสมาชิกคนแรกของค่ายนี้ พอดีแหละครบรอบ 12 ปี ได้ออกอัลบั้มใหม่อีกที อาจจะใช้เวลานานมากไปหน่อย 1 รอบเต็มๆ (หัวเราะ) แต่เราคิดว่ามันจะเป็นอะไรที่สนุกมากแน่ๆ สำหรับปีต่อๆ ไป ใครที่รักค่ายนี้ก็อยากให้รักและติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ นะ”

เรื่อง จรัตพร โมรา 
ภาพ SPICY DISC

0 comments
Other Magazine
or